หน้าแรก / Lifestyle / 'พระอาทิตย์ตก' กลางเสาชิงช้า เกิดจาก'ผังเมือง' ที่คิดมาแล้ว!
By NEXT STATION 18 ก.พ. 2568 395
17 กุมภาพันธ์ 2568 จากภาพ ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตก ที่ เสาชิงช้าในกรุงเทพฯ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจาก การวางผังเมืองที่มีการคิดคำนวณมาแล้ว เพื่อให้เป็น"จุดชมวิวที่สวยงามและโรแมนติก" ปีละครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม
เรียกว่าเป็น ปรากฏการณ์ Henge คือการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ที่มีความสำคัญต่อสถานที่ ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นปฏิทินทางดาราศาสตร์ ( คำว่า "Henge" มาจาก Stonehenge ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ด้านสถาปัตยกรรมที่มีความสัมพันธ์กับการเดินทางของดวงอาทิตย์)
งานวิทยานิพนธ์ของ มายด์-มาธวี ติลกเรืองชัย บัณฑิตจากสาขาสถาปัตยกรรมผังเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ 'The Rattanakosin Henge' เศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีความโรแมนติกและมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ระบุว่า.. ผังเมืองกับวิวพระอาทิตย์ตก : ผังเมืองมีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์ Henge ตัวอย่างเช่น
Manhattanhenge ใน นิวยอร์ก เกิดจากผังเมืองแบบกริดที่องศาถนนตรงกับการตกของดวงอาทิตย์
ParisHenge ใช้แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างการตกของดวงอาทิตย์กับเมือง
ในประเทศไทยมี PanomrungHenge ที่ ปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งออกแบบช่องเปิดให้สัมพันธ์กับการเดินทางของดวงอาทิตย์
RattanakosinHenge : โครงการ The Rattanakosin Henge มีเป้าหมายเพื่อค้นหาพื้นที่ที่มี Henge ใน เกาะรัตนโกสินทร์ และฟื้นฟูพื้นที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว การศึกษานี้ มายด์ใช้เว็บไซต์ sun-direction.com เพื่อหาทิศทางของแสงอาทิตย์และระบุสถานที่ที่เกิด Henge ในช่วงเวลาและฤดูกาลต่างๆ
Henge ในกรุงเทพฯ :
- บริเวณย่านท่าพระจันทร์-ท่าเตียน จะเกิด Henge ในช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม-มีนาคม)
- บริเวณย่านบำรุงเมือง จะเกิด Henge ในฤดูฝน (กรกฎาคม-ธันวาคม) โดยเฉพาะที่ ยอดภูเขาทอง
เสาชิงช้า : ปรากฏการณ์ "พระอาทิตย์ตก" กลางเสาชิงช้า เกิดขึ้นปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม
ขอขอบคุณข้อมูงจาก
Thaitribune
NEXT STATION
19 มี.ค. 2568· 3 min read