หน้าแรก / ข่าวสาร / รู้ตัวว่าเป็นออทิสติกตอนอายุ 24 ปี

รู้ตัวว่าเป็นออทิสติกตอนอายุ 24 ปี

By NobTa 20 ส.ค. 2568 102

 

ครูเอิร์น วัย 24 ปี เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นออทิสติก
ครูสอนเด็กพิเศษรายหนึ่ง แชร์ผ่าน TikTok @earn.nalinrat ว่ารู้ตัวว่าตนเองอยู่ในกลุ่มออทิสติกสเปกตรัม (แอสเพอร์เกอร์) เมื่ออายุ 24 หลังรักษาอาการทางจิตเวชจากเหตุการณ์ถูกล่วงละเมิดในวัยเด็กมานานหลายปี และนักจิตบำบัดแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม

เธอเล่าว่ามักไม่เข้าใจมารยาทสังคม พูดตรงเกินไปจนคนรอบข้างไม่พอใจ เช่น ตั้งคำถามกับครูเรื่องการแต่งหน้าและการแต่งกาย ทั้งที่คิดตามตรรกะของตนเอง ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าเข้ากับคนยาก ไม่เข้าใจว่าช่วงไหนควรหัวเราะหรืออะไรคือมารยาทที่ควรปฏิบัติ

ตอนฟังผลวินิจฉัย เธอเคยสงสัยว่าตนยังเป็นครูที่ดีพอหรือไม่ แต่แพทย์ย้ำว่า การสอนที่เธอทำมาก่อนหน้านี้พิสูจน์แล้วว่าเธอมีคุณค่า และไม่ควรตีตราตัวเอง ผู้ปกครองเด็กก็ยืนยันว่า “ขอแค่ครูสอนลูกได้ แค่นี้ก็ดีพอ”

ครูเอิร์นยังเล่าเกร็ดชีวิตว่าเคยมีชายส่งเพลงให้ทุกวัน 2 ปีเต็ม แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าอีกฝ่ายกำลังจีบ จึงทิ้งท้ายว่า หากใครคิดจีบผู้หญิงออทิสติกต้องพูดตรง ๆ เพราะพวกเธออาจไม่เข้าใจสัญญาณทางสังคมเลย

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ข่าวสด

🌟🌟🌟

ลักษณะอาการและการวินิจฉัย
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคแอสเพอร์เกอร์ ตามคู่มือการวินิจฉัยโรค DSM-IV โดยสมาคมจิตแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (The American Psychiatric Association's Diagnostic and Statistic Manual of Mental Disorder - Forth Edition, 1994) จัดโรคแอสเพอร์เกอร์ (Asperger's Disorder) อยู่ในกลุ่ม การวินิจฉัยโรคที่เรียกว่า พีดีดี ความบกพร่องของพัฒนาการแบบรอบด้าน (PDDs – Pervasive Developmental Disorders)

หลักเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรคแอสเพอร์เกอร์
มีคุณลักษณะในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ผิดปกติ โดยแสดงออกอย่างน้อย 2 ข้อต่อไปนี้

📍 บกพร่องอย่างชัดเจนในการใช้ท่าทางหลายอย่าง (เช่น การสบตา การแสดงสีหน้า กิริยา หรือท่าทางประกอบการเข้าสังคม)
📍 ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนในระดับที่เหมาะสมกับอายุได้
📍 ไม่แสดงความอยากเข้าร่วมสนุก ร่วมทำสิ่งที่สนใจ หรือร่วมงานให้เกิดความสำเร็จกับคนอื่นๆ (เช่น ไม่แสดงออก ไม่เสนอความเห็น หรือไม่ชี้ว่าตนสนใจอะไร)
📍 มีอารมณ์หรือสัมพันธภาพตอบสนองกับสังคม


มีพฤติกรรม ความสนใจ หรือกิจกรรมที่จำกัด ซ้ำๆ เป็นแบบแผน โดยแสดงออกอย่างน้อย 1 ข้อ ต่อไปนี้

📍 หมกมุ่นกับพฤติกรรมซ้ำๆ (stereotyped) ตั้งแต่ 1 อย่างขึ้นไป และความสนใจในสิ่งต่างๆมีจำกัด ซึ่งเป็นภาวะที่ผิดปกติทั้งในแง่ของความรุนแรงหรือสิ่งที่สนใจ
📍 ติดกับกิจวัตร หรือย้ำทำกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีประโยชน์โดยไม่ยืดหยุ่น
📍 ทำกิริยาซ้ำๆ (mannerism) (เช่น เล่นสะบัดมือ หมุน โยกตัว)
📍 สนใจหมกมุ่นกับเพียงบางส่วนของวัตถุ


ความผิดปกตินี้ ก่อให้กิจกรรมด้านสังคม การงาน หรือด้านอื่นๆที่สำคัญ บกพร่องอย่างมีความสำคัญทางการแพทย์ แต่ไม่พบพัฒนาการทางภาษาที่ล่าช้า อย่างมีความสำคัญทางการแพทย์ ไม่พบพัฒนาการทางความคิดที่ช้า อย่างมีความสำคัญทางการแพทย์ หรือมีความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง พฤติกรรมการปรับตัว และมีความอยากรู้เห็นในสิ่งรอบตัวในช่วงวัยเด็กความผิดปกติไม่เข้ากับ พีดีดี ความบกพร่องของพัฒนาการแบบรอบด้าน ชนิดเฉพาะอื่น หรือโรคจิตเภท (Schizophrenia) โดยการศึกษาด้านระบาดวิทยา พบว่ามีความชุกของโรคประมาณ 1 คนต่อประชากร 1,000 คน ซึ่งถ้าเทียบกับออทิสติกแล้ว พบว่ามีความชุกสูงกว่าเล็กน้อย

การดูแลรักษา
โรคแอสเพอร์เกอร์ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาที่จำเพาะเจาะจงให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถช่วยเหลือให้มีพัฒนาการทางด้านสังคมดีขึ้นได้มาก สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ และใช้ชีวิตอยู่ร่วมในสังคมได้ตามปกติ สำหรับแนวทางในการดูแลรักษาใช้แนวทางเดียวกับการดูแลรักษาผู้ที่เป็นออทิสติก โดยเน้นแก้ไขในด้านที่เป็นปัญหา ควบคู่ไปกับการส่งเสริมในด้านที่เป็นความสามารถของเด็ก เป็นสำคัญ

ข้อมูลจาก : สถาบันราชานุกูล 

(5.0)
NobTa

NobTa